แชร์

การเวียนว่ายตายเกิดและการได้เกิดเป็นมนุษย์

อัพเดทล่าสุด: 7 มิ.ย. 2025
12 ผู้เข้าชม
โอกาสหนึ่งในห้วงจักรวาล

การเวียนว่ายตายเกิดและการได้เกิดเป็นมนุษย์

ในท่ามกลางมหาสมุทรแห่งภพชาติ นับตั้งแต่กาลก่อนเริ่มต้นแห่งกาลเวลา จิตวิญญาณหนึ่งได้ล่องลอยผ่านวัฏสงสารอย่างไร้จุดหมาย เหมือนหยาดฝนที่ตกลงกลางทะเล ไม่รู้ว่าจะแตกหายเป็นไอหรือตกลงสู่ผืนน้ำอีกครั้ง

ชีวิต มิใช่เพียงคราวเดียวของการลืมตาขึ้นมาเห็นแสงอาทิตย์ในโลกนี้ หากแต่เป็นเพียงหนึ่งฉากจากละครยาวไร้บทสรุป เราต่างเคยเกิด เคยตาย เคยเป็นผู้ปกครอง เคยเป็นยาจก เคยเป็นสัตว์ป่า เป็นเทวดา เป็นเปรต และเคยเป็น มนุษย์

การได้เกิดเป็นมนุษย์อาจฟังดูเป็นสิ่งธรรมดา เพราะเราทุกคนที่อ่านข้อความนี้ต่างก็เป็นอยู่ แต่นั่นมิได้หมายความว่ามันจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายดายนัก หากเปรียบกับคำสอนในพุทธศาสนา พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า:

โอกาสที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์นั้น เปรียบเหมือนเต่าตาบอดตัวหนึ่งในมหาสมุทร ซึ่งโผล่ขึ้นมาที่ผิวน้ำทุกๆ ร้อยปี และมีแอกไม้ลอยอยู่เพียงชิ้นเดียวในมหาสมุทรนั้น โอกาสที่เต่าจะโผล่หัวขึ้นผ่านรูของแอกไม้นั้นยังง่ายกว่าการได้เกิดเป็นมนุษย์เสียอีก

เหตุใดการเกิดเป็นมนุษย์จึงยากนัก?

เพราะภพภูมิทั้งหลายมีมากมาย มนุษย์เป็นเพียงภูมิหนึ่งจากหกภูมิใน สังสารวัฏ ได้แก่ สวรรค์ มนุษย์ อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน เปรต และนรก มนุษย์เป็นภูมิแห่งโอกาส ที่ทุกข์และสุขมาเยือนพร้อมกัน เป็นภาวะที่เหมาะแก่การพัฒนา ปัญญา สติ และการรู้แจ้ง

ในขณะที่เปรตอดอยากและไม่มีเวลาคิดอะไร เดรัจฉานมีสัญชาตญาณเป็นตัวนำ เทวดาเสพสุขเกินจะระลึกถึงกรรม นรกมีแต่ความทรมาน มนุษย์เท่านั้นที่พอดี พอเหมาะ พอจะตั้งคำถามว่า
เรามีชีวิตไปเพื่ออะไร?
จะทำอย่างไรไม่ให้กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก?

ดังนั้น ชีวิตมนุษย์จึงมิใช่เพียงการดำรงอยู่ แต่มันคือโอกาส โอกาสเดียวที่เรามีในวัฏจักรอันเวียนวนนี้ ที่จะ ตื่น ขึ้นมา ทบทวนความเป็นจริง และวางทางให้จิตพ้นจากการกลับมาอีกครั้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง
วงจรแห่งชีวิต: ทำไมมนุษย์ต้องเวียนว่ายตายเกิด?
ในทุกอารยธรรม ความเชื่อเรื่องการเกิด แก่ เจ็บ ตาย และการกลับมาเกิดใหม่นั้นฝังรากลึกอยู่ในจิตวิญญาณของผู้คนมาช้านาน โดยเฉพาะในศาสนาใหญ่ๆ อย่างพุทธศาสนาและฮินดู การเวียนว่ายตายเกิด หรือ สังสารวัฏ
ข้า คือเงาที่ไม่มีวันตาย
ข้าอยู่ในเงามืดของโลกใบนี้มานานเท่าที่โลกมีเงา ข้าไม่ใช่คน ไม่ใช่ผี ไม่ใช่เทพ ข้าเป็นเพียง “ผู้พาไป” ทุกครั้งที่มนุษย์คนหนึ่งสิ้นลมหายใจ ข้าจะรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนในกระแสแห่งวิญญาณ ราวกับระลอกน้ำกระทบผิวนิ่ง—เป็นสัญญาณว่ามีวิญญาณหนึ่งพร้อมเดินทาง
ปลายทางแสงเงา: ประตูนิรันดร์
เธอเหลือเพียงความทรงจำสุดท้าย…เสียงหัวเราะของคนที่รักเธอ และที่เธอรักมือที่จับมือนั้นครั้งสุดท้าย และคำขอโทษที่ไม่เคยพูดออกไป เธอหยุดยืนเบื้องหน้า “ประตูนิรันดร์” มันไม่ได้ใหญ่โต ไม่อลังการ เป็นเพียงโครงไม้เก่าที่มีแสงอบอุ่นลอดออกมาราวเชิญชวน ข้างเธอมีวิญญาณหนึ่งยืนอยู่เงียบ ๆ เขาอยู่กับเธอมาตลอดการเดินทาง ไม่เคยพูดมากนัก แต่เธอรู้ว่าเขา “เข้าใจ”
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy