แชร์

ผีตายโหง คนตายไม่รู้ตัว

อัพเดทล่าสุด: 10 ส.ค. 2025
14 ผู้เข้าชม

"เสียงเพลงในวิทยุเป็นเพื่อนยามค่ำคืนของผมนับตั้งแต่คุณกลับไปทำงานต่างประเทศ" ผมพิมพ์ข้อความนั้นส่งไปให้ภรรยา แต่ข้อความนั้นไม่มีวันถูกเปิดอ่านอีกแล้ว ผมยังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองตายไปแล้ว


 

ความว่างเปล่าที่มาพร้อมกับความเฉยชา
 

วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามไม่ขาดสายและไฟฟ้าดับเป็นระยะ ผมนั่งเขียนบทความบนแล็บท็อป พลางฟังวิทยุไปด้วย และพิมพ์ข้อความไปให้ภรรยาด้วยความรู้สึกคิดถึงจนแทบทนไม่ไหว

จู่ ๆ เสียงเพลงในวิทยุก็เงียบไป ผมได้ยินเสียงแตรรถดังลากยาวจนแสบแก้วหู ผมได้ยินเสียงกระจกแตกอย่างรุนแรง และผมก็รู้สึกได้ถึงแรงกระแทกจากด้านหลังที่ทำให้ร่างกายผมกระเด็นไปข้างหน้า ผมไม่มีโอกาสได้ส่งข้อความนั้นไปหาภรรยา เพราะแรงกระแทกได้ฉุดรั้งชีวิตของผมให้สิ้นสุดลงเสียก่อน

ร่างกายของผมลอยเคว้งคว้างอยู่ในความมืดที่ไร้ซึ่งจุดหมาย ผมมองเห็นร่างกายตัวเองนอนคว่ำหน้าอยู่บนโต๊ะทำงาน ในมือถือแล็บท็อปที่ปิดสนิท แสงจากหน้าจอที่เคยส่องสว่างกลับกลายเป็นความมืดที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา แสงไฟในห้องดับสนิท ทำให้ผมมองเห็นภาพตัวเองไม่ชัดเจนนัก ผมมองเห็นร่างนั้นอยู่นานแค่ไหนไม่รู้ เพราะผมไม่สามารถจับต้องเวลาได้อีกแล้ว

ตอนแรกผมไม่รู้สึกอะไรเลย ผมยังคงคิดว่าตัวเองกำลังนั่งทำงานอยู่ตรงนั้น ผมพยายามจะพิมพ์ต่อ แต่ก็ไม่มีสัมผัสใด ๆ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในความว่างเปล่า และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลยแม้แต่นิดเดียว ผมอยากจะเปิดไฟ ผมอยากจะเปิดวิทยุอีกครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกที่ว่างเปล่าไปหมด

จู่ ๆ ผมก็ได้ยินเสียงรถดับเพลิงดังมาจากที่ไกล ๆ และได้ยินเสียงรถพยาบาลดังตามมาติด ๆ ผมมองเห็นรถยนต์สองสามคันจอดอยู่ตรงหน้าบ้านผม ผู้คนต่างกรูเข้ามาช่วยเหลือ ผมจึงรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองจากด้านนอก ผมมองเห็นตัวเองนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น ในมือยังคงถือแล็บท็อปที่ปิดสนิท ผมยังไม่รู้ตัวว่าผมตายแล้ว ผมยังคิดว่าตัวเองกำลังล่องลอยอยู่บนอากาศ และมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากมุมสูง


รู้ตัวว่าตายแล้ว
 
ผมมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ เมื่อร่างของผมถูกหามขึ้นรถพยาบาล ผมก็ตกใจมาก ผมพยายามจะเข้าไปจับตัวร่างนั้น แต่ก็ไม่สามารถจับต้องได้ ผมมองเห็นคนแปลกหน้ากลุ่มหนึ่งนำรถยนต์ที่พุ่งชนบ้านผมไป ผมจึงได้รู้ว่ารถยนต์คันนั้นที่พุ่งชนผมได้พรากชีวิตของผมไป และผมก็ไม่สามารถกลับไปในร่างกายนั้นได้อีกแล้ว

นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้ตัวว่าตัวเองตายแล้ว ผมร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ผมพยายามจะร้องเรียกคนอื่นให้มาช่วย แต่ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงของผมเลย ผมตะโกนเรียกภรรยา และอยากให้เธอมาหาผม แต่ก็รู้ว่าเธอไม่มีทางมาได้ ผมทรมานมาก ทรมานที่ต้องทิ้งเธอไว้ข้างหลัง และต้องตายในบ้านของเราอย่างโดดเดี่ยว ผมร้องไห้หนักขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งผมไม่มีน้ำตาที่จะร้องไห้ออกมาอีกแล้ว

ผมนั่งอยู่ที่เดิมท่ามกลางความมืดมิดที่ว่างเปล่า ความรู้สึกของผมในตอนนี้คือความทุกข์ระทม และความโดดเดี่ยว ผมรู้ว่าผีอย่างผมจะไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ ไม่มีใครสามารถได้ยินเสียงของผมได้ ผมทรมานมากที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่ต้องตายอย่างโดดเดี่ยว


ผีตายโหง
 
ผมเริ่มออกไปจากบ้านของตัวเองในยามค่ำคืนและออกเดินทางไปเรื่อย ๆ ผมเดินไปตามถนนที่เคยขับรถไปทำงานทุกวัน ผมเดินผ่านร้านกาแฟที่ผมเคยเข้าไปนั่งดื่มกาแฟบ่อย ๆ ผมเดินผ่านสถานที่ที่เคยไปกับภรรยา และความทรงจำมากมายก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวของผม

ผมเริ่มทำความเข้าใจชีวิตใหม่ของผมในฐานะผี ผมรู้ว่าผมไม่สามารถกลับไปหาภรรยาได้แล้ว และผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว ผมทำได้เพียงแค่เดินวนไปวนมาในบ้านของเรา เหมือนวิญญาณที่ถูกจองจำอยู่ในบ้านหลังเดิม ไม่มีใครมองเห็นผม ไม่มีใครได้ยินเสียงของผม ผมเริ่มทำความเข้าใจชีวิตใหม่ของผมในฐานะผี และผมรู้ว่าผมจะต้องอยู่กับความโดดเดี่ยวไปตลอดกาล

ผีตายโหงอย่างผมจะใช้ชีวิตแบบไหนต่อไป? ผมไม่รู้ ผมไม่รู้ว่าชะตากรรมของผมจะไปจบลงตรงไหน ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องลอยเคว้งคว้างไปอีกนานแค่ไหน หรือว่าผมจะต้องรอวันตายไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด


แสงสว่างที่นำทาง
 
วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ผมก็มองเห็นแสงสว่างจ้าที่ส่องมาจากนอกหน้าต่าง ผมมองเห็นภาพของภรรยาในแสงสว่างนั้น เธอแต่งกายด้วยชุดที่เราเคยใส่ไปดูหนังเรื่องโปรดด้วยกัน ผมได้ยินเสียงของเธอเรียกชื่อของผมเบา ๆ เธอพูดว่า กลับมานะ

ในตอนแรกผมไม่เชื่อว่าแสงนั้นเป็นของจริง ผมไม่เชื่อว่าแสงนั้นจะพาผมไปพบภรรยาได้ แต่เสียงของเธอที่เรียกชื่อผมนั้นชัดเจนมาก ผมจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาแสงสว่างนั้น เมื่อผมเดินเข้าไปในแสงสว่างนั้น ผมก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและปลอดภัย ผมรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอีกครั้ง และผมก็รู้ว่าแสงสว่างนั้นจะพาผมไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่

ผมยังไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นใหม่ของผมจะเป็นอย่างไร ผมยังไม่รู้ว่าผมจะไปเจออะไรข้างหน้า แต่ผมเชื่อว่าแสงสว่างนั้นจะนำทางผมไปสู่จุดที่ผมควรจะอยู่ และผมเชื่อว่าผมจะได้พบกับภรรยาอีกครั้ง

ผมยังไม่รู้ว่าเรื่องราวของผมจะจบลงอย่างไร ผมยังไม่รู้ว่าผมจะไปไหนต่อหลังจากนี้ แต่ผมเชื่อว่าผมจะไปได้ดี และผมก็เชื่อว่าผมจะพบกับภรรยาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในโลกนี้ หรือโลกหน้า ผมจะรอเธอเสมอ

 

สั่งพวงหรีดที่ พวงหรีด จงธรรมดี ส่งฟรีถึงศาลา เปิดบริการทุกวัน พร้อมแบบหลากหลายให้เลือก
พวงหรีดใกล้วัด  พวงหรีดพัดลม พวงหรีดดอกไม้สด พวงหรีด สั่งพวงหรีด พัดลมพวงหรีด พวงหรีดใกล้ฉัน www.wreathchongthamdee.com

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
“เงาสุดท้าย: บันทึกของผู้จากไป”
ในช่วงสามวันหลังการตาย วิญญาณจะยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวโลกมนุษย์—ไม่ใช่เพราะยังไม่พร้อมจะไป แต่เพราะโลกวิญญาณให้โอกาสสุดท้ายในการมองดูชีวิตที่เราเคยมี ขณะที่ร่างกายกำลังถูกเตรียมสู่เมรุ วิญญาณกำลังกล่าวคำอำลาครั้งสุดท้าย
ปลายทางแสงเงา: ประตูนิรันดร์
เธอเหลือเพียงความทรงจำสุดท้าย…เสียงหัวเราะของคนที่รักเธอ และที่เธอรักมือที่จับมือนั้นครั้งสุดท้าย และคำขอโทษที่ไม่เคยพูดออกไป เธอหยุดยืนเบื้องหน้า “ประตูนิรันดร์” มันไม่ได้ใหญ่โต ไม่อลังการ เป็นเพียงโครงไม้เก่าที่มีแสงอบอุ่นลอดออกมาราวเชิญชวน ข้างเธอมีวิญญาณหนึ่งยืนอยู่เงียบ ๆ เขาอยู่กับเธอมาตลอดการเดินทาง ไม่เคยพูดมากนัก แต่เธอรู้ว่าเขา “เข้าใจ”
ข้า คือเงาที่ไม่มีวันตาย
ข้าอยู่ในเงามืดของโลกใบนี้มานานเท่าที่โลกมีเงา ข้าไม่ใช่คน ไม่ใช่ผี ไม่ใช่เทพ ข้าเป็นเพียง “ผู้พาไป” ทุกครั้งที่มนุษย์คนหนึ่งสิ้นลมหายใจ ข้าจะรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนในกระแสแห่งวิญญาณ ราวกับระลอกน้ำกระทบผิวนิ่ง—เป็นสัญญาณว่ามีวิญญาณหนึ่งพร้อมเดินทาง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy