แชร์

วัดเวฬุราชิน: เพชรน้ำงามริมคลองภาษีเจริญและประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์

อัพเดทล่าสุด: 24 ส.ค. 2025
36 ผู้เข้าชม

วัดเวฬุราชิน: เพชรน้ำงามริมคลองภาษีเจริญและประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์

วัดเวฬุราชิน เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่เลขที่ ๘๗๙ ถนนเทอดไท แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร บนฝั่งตะวันออกของคลองภาษีเจริญ วัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในพระอารามที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ซึ่งเป็นยุคสมัยที่บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรือง และมีการสร้างวัดวาอารามจำนวนมาก วัดเวฬุราชินไม่เพียงแต่มีความสำคัญทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงศิลปกรรม สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตของผู้คนในย่านฝั่งธนบุรีมาอย่างยาวนาน

ประวัติการสร้าง: จากพื้นที่ส่วนพระองค์สู่พระอารามหลวง

วัดเวฬุราชินสร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ. ๒๓๖๗ ๒๓๙๔) โดยพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ (พระองค์เจ้าศิริวงศ์) พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๓ ทรงสร้างขึ้นบนที่ดินส่วนพระองค์ที่ทรงได้รับพระราชทานจากพระราชบิดา เดิมบริเวณนี้เป็นสวนและบ้านเรือนราษฎร ต่อมาได้ทรงอุทิศที่ดินดังกล่าวเพื่อสร้างวัดขึ้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานนามว่า "วัดเวฬุราชิน" อันมีความหมายว่า "วัดของพระราชินีไม้ไผ่" หรือ "วัดพระราชาผู้ทรงเป็นดุจไม้ไผ่" ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับลักษณะภูมิประเทศเดิมที่มีต้นไผ่ขึ้นอยู่มาก หรือเป็นชื่อที่ทรงพระราชทานขึ้นเป็นมงคลนาม

การสร้างวัดเวฬุราชินใช้เวลาดำเนินการอยู่หลายปี โดยมีการควบคุมการก่อสร้างอย่างใกล้ชิดจากกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ เมื่อการก่อสร้างสำเร็จสมบูรณ์ จึงได้มีการเฉลิมฉลองและถวายเป็นพระอารามหลวง ซึ่งนับเป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่สร้างขึ้นในยุคนั้น

สถาปัตยกรรมและศิลปกรรม: ความงดงามแห่งรัตนโกสินทร์ตอนต้น

วัดเวฬุราชินโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแบบไทยประเพณีที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีน ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของศิลปะในสมัยรัชกาลที่ ๓ มีการตัดทอนลวดลายวิจิตรบรรจงลง เน้นความเรียบง่าย แต่คงไว้ซึ่งความสง่างามและความแข็งแรง

พระอุโบสถ: เป็นอาคารประธานของวัด สร้างตามแบบแผนพระอุโบสถไทยทั่วไป คือ มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ภายในประดิษฐานพระประธาน "พระพุทธศรีนรินทร์" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ ผนังภายในพระอุโบสถเคยมีภาพจิตรกรรมฝาผนังพุทธประวัติ แต่บางส่วนได้เลือนหายไปตามกาลเวลาและมีการบูรณะซ่อมแซมเพิ่มเติมในภายหลัง การตกแต่งภายนอกเน้นความเรียบง่าย แต่มีลวดลายปูนปั้นที่หน้าบันและซุ้มประตูหน้าต่างที่ยังคงร่องรอยความงามในอดีต
พระวิหาร: ตั้งอยู่ใกล้กับพระอุโบสถ สร้างในรูปแบบเดียวกันกับพระอุโบสถ แต่มีขนาดเล็กกว่า ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ
เจดีย์: วัดเวฬุราชินมีเจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองแบบลังกาผสมกับแบบไทยประยุกต์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมในสมัยรัชกาลที่ ๓ ตั้งอยู่ด้านหลังพระอุโบสถ นอกจากนี้ยังมีเจดีย์รายล้อมอีกหลายองค์ ซึ่งมีรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งเจดีย์ทรงระฆังและเจดีย์ทรงเครื่องประดับลวดลายปูนปั้น
ศาลาการเปรียญ: เป็นอาคารไม้ที่สร้างขึ้นในสมัยหลังเพื่อใช้ในการประกอบศาสนกิจ การเรียนการสอนพระปริยัติธรรม และเป็นที่พักของพระสงฆ์ อาคารนี้สะท้อนถึงงานช่างไม้ไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนปลาย
หอระฆังและหอกลอง: สร้างขึ้นในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสองชั้น ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นและไม้แกะสลัก แสดงให้เห็นถึงความประณีตของช่างฝีมือในสมัยนั้น
อาคารเสนาสนะ: ภายในวัดยังมีกุฏิสงฆ์ ศาลาต่างๆ และอาคารประกอบที่สร้างขึ้นตามยุคสมัยต่างๆ สะท้อนให้เห็นถึงการใช้งานและพัฒนาการของวัด
ความสำคัญทางพระพุทธศาสนาและชุมชน

วัดเวฬุราชินเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญของชุมชนริมคลองภาษีเจริญและย่านบางยี่เรือมาตั้งแต่ครั้งอดีต วัดแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของพุทธศาสนิกชน เช่น การทำบุญตักบาตร การฟังเทศน์ การเวียนเทียนในวันสำคัญทางศาสนา แต่ยังเป็นแหล่งรวมจิตใจและเป็นศูนย์รวมกิจกรรมของชุมชน

การศึกษาพระปริยัติธรรม: วัดเวฬุราชินมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมมาโดยตลอด มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมสำหรับพระภิกษุสามเณร และยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านศาสนาสำหรับฆราวาส
บทบาททางสังคม: วัดเป็นที่พึ่งทางใจและเป็นแหล่งรวมกิจกรรมทางสังคมของชุมชน เช่น งานประเพณี วัฒนธรรมต่างๆ การจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ และเป็นสถานที่จัดงานบำเพ็ญกุศล
ความผูกพันกับราชสำนัก: การที่วัดนี้สร้างขึ้นโดยพระราชโอรสในรัชกาลที่ ๓ และได้รับพระราชทานนามจากพระองค์ แสดงให้เห็นถึงความผูกพันอันใกล้ชิดระหว่างวัดกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ต้น ทำให้วัดเวฬุราชินมีสถานะและเกียรติภูมิที่สำคัญ
การอนุรักษ์มรดก: วัดได้มีการดูแลรักษาและบูรณะปฏิสังขรณ์อาคารสถานที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมอันทรงคุณค่าไว้ให้คงอยู่คู่ชุมชนและประเทศชาติ
วิถีชีวิตริมคลองภาษีเจริญและวัดเวฬุราชิน

การตั้งอยู่ริมคลองภาษีเจริญทำให้วัดเวฬุราชินมีความผูกพันอย่างแยกไม่ออกกับวิถีชีวิตริมน้ำในอดีต คลองภาษีเจริญเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญในการเดินทาง การค้าขาย และการดำเนินชีวิตของผู้คน การสัญจรทางน้ำทำให้วัดเข้าถึงได้ง่ายและเป็นจุดศูนย์รวมของชุมชนคลองภาษีเจริญ

แม้ในปัจจุบันบทบาทของคลองจะลดน้อยลงไปบ้าง แต่ก็ยังคงมีเรือโดยสารวิ่งผ่าน และภาพของวัดที่ตั้งสง่างามริมคลองก็ยังคงเป็นภาพที่คุ้นตาและเป็นสัญลักษณ์ของย่านธนบุรี ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับบรรยากาศของวิถีชีวิตริมน้ำที่ยังคงมีกลิ่นอายของอดีต

การเดินทางและการเยี่ยมชม

วัดเวฬุราชินตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายในการเดินทาง สามารถเดินทางได้หลากหลายวิธี:

รถไฟฟ้า BTS: ลงสถานีตลาดพลู จากนั้นต่อรถประจำทางหรือรถจักรยานยนต์รับจ้างไม่ไกล
รถโดยสารประจำทาง: มีรถประจำทางหลายสายผ่านถนนเทอดไท เช่น สาย ๔, ๙, ๔๓, ๕๗, ๘๔, ๘๔ก, ๑๐๑, ๑๐๘, ๑๔๗, ๑๖๕, ๕๔๗
เรือคลองภาษีเจริญ: หากต้องการสัมผัสบรรยากาศริมน้ำ สามารถนั่งเรือคลองภาษีเจริญมาลงที่ท่าเรือวัดเวฬุราชินได้โดยตรง
การเยี่ยมชมวัดเวฬุราชิน จะทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับความสงบ ร่มรื่น และความงดงามของศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้น พร้อมทั้งเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของชุมชนฝั่งธนบุรี

สั่งพวงหรีดที่ พวงหรีด จงธรรมดี ส่งฟรีถึงศาลา เปิดบริการทุกวัน พร้อมแบบหลากหลายให้เลือก
พวงหรีดใกล้วัด วัดเวฬุราชิน พวงหรีดพัดลม พวงหรีดดอกไม้สด พวงหรีด สั่งพวงหรีด พัดลมพวงหรีด พวงหรีดใกล้ฉัน www.wreathchongthamdee.com

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
วัดบางปะกอก ชื่อเดิม วัดบางคี่
วัดบางปะกอกเป็นวัดโบราณที่ตั้งอยู่ในแขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่มาอย่างยาวนาน
วัดศาลาแดงตั้งอยู่ในแขวงบางไผ่ เขตบางแค
วัดศาลาแดงตั้งอยู่ในแขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย สันนิษฐานว่าชื่อ "ศาลาแดง" มาจากศาลาท่าน้ำที่ทาสีแดงทั้งหลัง ซึ่งเป็นจุดสังเกตสำคัญในสมัยก่อน
วัดแก้วไพฑูรย์ เดิมชื่อ "วัดบางประทุนใน"
วัดแก้วไพฑูรย์ ตั้งอยู่ในแขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร เดิมชื่อ "วัดบางประทุนใน" เนื่องจากตั้งอยู่ริมคลองบางประทุน ซึ่งในอดีตเป็นชุมชนที่เรียกว่า "ข้าหลวงเดิม" เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ประมาณปี พ.ศ. 2390
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy